กลายเป็นข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคม เมื่อพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับเหตุพบทารกเพศหญิง อายุประมาณ 6-7 วัน ถูกทิ้งไว้ในถังขยะบริเวณทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนบางกรวย – ไทร จังหวัดนนทบุรี เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบเด็กหญิงในสภาพที่ยังมีชีวิต อาการปลอดภัย สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี สร้างความโล่งใจให้กับผู้พบเห็น และเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทารกส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่เรื่องราวดำเนินไป ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต่างให้ความสนใจและตั้งคำถามถึงผู้เป็นแม่ของเด็ก ว่าทำไมถึงเลือกทิ้งลูกน้อยไว้ในถังขยะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของทารก โชคดีที่เด็กได้รับการช่วยเหลือทันเวลา ทำให้ไม่มีอันตรายร้ายแรงตามมา
ต่อมา ในระหว่างการสอบสวนและรวบรวมข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์และกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง เจ้าหน้าที่เริ่มพบพิรุธจากพลเมืองดีคนหนึ่งที่เป็นผู้แจ้งเหตุ หญิงสาวคนดังกล่าวมีท่าทีตื่นตระหนก และคำให้การบางส่วนไม่สอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบสวนอย่างละเอียด
ภายใต้ความกดดันและคำถามอย่างต่อเนื่อง หญิงสาวในที่สุดก็สารภาพว่า ทารกน้อยที่ถูกพบในถังขยะนั้นคือลูกของเธอเองเธอให้การยอมรับด้วยน้ำตาว่า เหตุผลที่ต้องโกหกและสร้างเรื่องว่าเจอเด็กในถังขยะ เป็นเพราะความเครียดและความกดดันในชีวิตส่วนตัว
ทอมอ้างเจอทารกในขยะ หญิงสาวเล่าทั้งน้ำตาว่า เธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องเผชิญปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องการเงิน ความไม่มั่นคงในชีวิต และความกังวลว่าตนเองจะไม่สามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างเหมาะสม
เธอกลัวว่าจะถูกสังคมตัดสินและโดนประณามหากยอมรับว่าเด็กคือลูกของตัวเอง เธอจึงตัดสินใจสร้างเรื่องขึ้นมา โดยหวังเพียงว่าหลังจากนี้เด็กจะได้รับการดูแลจากคนอื่นที่มีความพร้อมมากกว่า
เมื่อเรื่องราวถูกเปิดเผย หลายคนที่เคยตั้งข้อสงสัยกลับรู้สึกเห็นใจในชะตากรรมของเธอ และเข้าใจถึงแรงกดดันที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม การกระทำนี้ยังถือว่าผิดกฎหมายและมีผลต่อจิตใจของเด็กในอนาคต เจ้าหน้าที่จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทั้งแม่และลูก
ในท้ายที่สุด เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือทั้งด้านกฎหมายและจิตวิทยาแก่หญิงสาวผู้เป็นแม่ เพื่อให้เธอได้มีโอกาสดูแลลูกในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสม พัฒนาสภาพชีวิตให้ดีขึ้น พร้อมทั้งให้คำปรึกษาในการเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนที่สำคัญให้กับสังคม ว่าปัญหาความกดดันทางสังคมและเศรษฐกิจอาจทำให้คนต้องตัดสินใจในทางที่ผิด เราทุกคนควรมีความเห็นอกเห็นใจและให้ความช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก เพื่อให้พวกเขามีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่ และหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมเช่นนี้ในอนาคต
สนับสนุนเนื้อหาโดย เครื่องช่วยฟังอย่างดี
